Hidden Hindu

  กำเนิด .. # เทศกาลคเณศจตุรถี !! คเณศจตุรถีหรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ❝ วินายะกาจตุรถี ❞ เป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดในประเทศอินเดีย เทศกาลนี้จัดมีขึ้นเพื่อแสดงถึงความรักและความศรัทธาที่ชาวฮินดูมีต่อองค์พระพิฆคเนศ ดังนั้น ทุกๆ ปี ในวันที่สี่ของเดือนพระจันทร์ใหม่ที่ขึ้นสุกสว่าง ซื่งในปฏิทินฮินดูจะเรียกช่วงเวลานี้ว่า ❝ จตุรถี ❞ ประมาณเดือนสิงหาคม - กันยายนของทุกปี จึงเป็นที่มาของคำว่า ❝ คเณศจตุรถี ❞ เทศกาลคเณศจตุรถี มีขึ้นครั้งแรกในสมัยพระเจ้าศิวจี มหาราช (1630-1680) พระองค์ได้ริเริ่มให้เทศกาลนี้มีขึ้นเพื่อส่งเสริมศาสนาฮินดู แต่ก็ยังเป็นเทศกาลเล็กๆ ไม่ใหญ่โต ส่วนมากก็จะเป็นการเฉลิมฉลองกันในครอบครัว จนกระทั่งมาในยุคอังกฤษล่าอาณานิคม จึงได้ท่าน Bhausaheb Laxman Javale จัดให้มีขบวนราชรถเพื่อแห่เทวรูปพระคเณศเป็นคันแรกและนำขบวนแห่ออกสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกในรัฐมหาราชขึ้นในปี 1892 แต่ก็ยังไม่เป็นที่นิยม และ .. ในปี 1983 จึงได้ท่าน Lokmanya Tilak เป็นหนึ่งในผู้กอบกู้อิสระภาพให้อินเดียจากลัทธิล่าอานานิคมของอังกฤษ ท่านได้ถือโอกาสเอาเทศกาลอันดีงามนี้เป็นเหตุผลให้ประชาชนชา...

  # ทำไมพระกฤษณะถึงเลิกเป่าขลุ่ย ? พระกฤษณะกับขลุ่ยเป็นสิ่งคู่กัน แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าพระองค์ได้มอบขลุ่ยคู่กายให้กับผู้เป็นที่รักไปนานแสนนานแล้ว จากนั้นพระองค์ก็ไม่ได้บรรเลงเพลงขลุ่ยอีกเลย พระกฤษณะผู้ทรงเลอโฉมยิ่งกว่าหญิงงามใดๆ พระองค์คือความร่าเริงสนุกสนาน คือเสียงเพลงอันไพเราะ คือผู้เป็นที่รักของหญิงทั้งปวง เทพแห่งการร่ายรำ เจ้าแห่งเสียงเพลงผู้บรรเลงเพลงขลุ่ยได้อย่างตราตรึงใจ ~ ❤️ แต่ .. ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น จบลงเมื่อพระองค์ต้องจากบ้านเกิด หนุ่มน้อยวัย 16 ปี ผู้มองโลกด้วยความสวยงาม พระองค์หลงรักสาวงามนามว่า .. ราธา แต่ความรักช่างโหดร้าย ด้วยความที่ผู้ใหญ่เห็นว่าไม่เหมาะสม สาวน้อยแสนน่ารัก .. พระนางราธา มีอายุมากกว่าพระกฤษณะ 5 ปี และพระนางทรงมีคู่หมั้นหมายไว้แล้ว .. เมื่อวันที่ต้องจากลามาถึง .. พระกฤษณะทรงร่ายรำกับผู้เป็นที่รักสุดหัวใจ ทั้งคู่รู้ดีว่าการจากลากันตลอดชีวิตได้มาถึงเเล้ว วินาทีนั้น .. พระกฤษณะทรงหยิบขลุ่ยคู่กาย มอบไว้กับพระนางราธา นั้นคือครั้งสุดท้ายที่พระกฤษณะบรรเลงเพลงขลุ่ย .. นั้บตั้งแต่นั้นมา ... พระกฤษณะมิได้บรรเลงเพลงขลุ่ยอีกต่อไป แต่...

  # วันเกิดพระกฤษณะ ในศาสนาฮินดูจะเรียกว่า วันกฤษณะจันมาฏฐมี หรือ วันกฤษณะชยันตี พระกฤษณะ คือเทพเจ้าแห่งความรัก , ความงดงาม , ความร่าเริง , ความอ่อนโยนและความเข็มแข็ง พระองค์ทรงเป็นอวตารปางที่ 8 ของพระวิษณุนารายณ์มหาเทพ ทรงมีความสำคัญในมหากาพย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ .. # มหาภารตะ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของ .. # คัมภีร์ภควัทคีตา พระกฤษณะทรงเกิดมาในช่วงต่อของสองยุค คือ ทวาปรยุค กับ กลียุค # ทวาปรยุค : บุคคลที่เกิดในยุคนี้จะเป็น .. สัตบุรุษ คือผู้ที่มาจากสวรรค์ 50% และเป็น .. อันธพาล คือผู้ที่มาจากอบายภูมิอีก 50% # กลียุค : เป็นยุคที่มีแต่ความมึดบอด เป็นยุคที่มีคนเลวถึง 3 ส่วน และมีคนดีเพียงเเค่ 1 ส่วน กลียุคก็คือยุคปัจจุบันนั่นเอง ใน .. มหาปุราณะสกันทะ หรือ พระคัมภีร์สกันท์ .. ซึ่งเป็นพระคัมภีร์ที่เก่าแก่ที่สุดเล่มหนึ่งในศาสนาฮินดู พระคัมภีร์นี้ส่วนมากจะเป็นตำนานเรื่องเล่า และได้พรรณนาไว้ว่า .. เมื่อพระกฤษณะเสด็จกลับคืนสู่วิมานที่ประทับในไวกูณฐ์ ( วิษณุโลก ) คือวันที่โลกมนุษย์เริ่มเข้าสู่กลียุคอย่างเต็มตัว คำสอนในพระคัมภีร์ภควัตคีตา เป็นของขวัญอันป...

  คำสอนaลี้ลับบทสุดท้าย..พระเวทมุณฑกะ อุปนิษัท..ปรัญชาอาตมัน ตอน คุรุ..ครู..ที่ใช่ จะดูรู้ได้อย่างไร? ชีวิตคนเราเปรียบได้ดั่งการเดินทางหลงป่าหาทางกลับบ้านไม่ถูก ป่าอันรกชันที่มีสัตว์ร้าย งูพิษ แมลงกัดต่อยมากมาย สายฝนที่กระหน่ำลงมา ความหิวโหย ความหนาวเหน็บ หาที่อุ่นกายใจให้พักพิงก็แสนยาก.. การหลงป่าคือคำเปรียบเปรยของมหาริชชี่ในยุคโบราณที่ได้กล่าวเอาไว้ถึงการมีชีวิตที่วนเวียนอยู่ในความทุกข์ ปัญหาเก่าไป ปัญหาใหม่ก็มา วนเวียนอยู่แบบนี้ไม่มีวันจบสิ้น ความทุกข์วนไปวนมาทุกวัน ทุกปี ทุกภพ ทุกชาติ ศาสตร์ฮินดูเรียกสิ่งนี้ว่า..สังสารวัฏ ( SAMSARA ) ❝ป่าแห่งสังสารวัฏ❞ จึงทำให้ทุกชีวิตพยายามดิ้นรนเพื่อหนีให้พ้นจากทุกข์ในวิธีที่เเตกต่างกันไป บ้างก็เชื่อว่าเงินคือจุดหมายของความสุข บ้างก็แสวงหาความรักคือความสุข บ้างก็คิดว่าความสำเร็จในชีวิตการงานคือความสุข บางกลุ่มก็เชื่อว่าความสงบคือความสุข แล้วความสุขอันเเท้จริงอยู่ที่ใดกัน.. ด้วยความโหยหาความสุขและเพื่อหนีให้พ้นความทุกข์ในรูปแบบต่างๆ นานา บุคคลจึงเพียรหาที่พึ่งทางใจ เพียรพยายามหาหลักเกาะที่มั่นคง หาผู้ชี้ทางสว่างเพื่อแก้ไขปัญหา จึงเป็นที่มาของ ...

  เหตุแห่งการสร้าง .. ❝ องค์ดักดูเศรษฐ์ ❞ ย้อนเวลากลับไปในช่วงปลาย ค . ศ . 1800 เกิดมีโรคระบาดครั้งยิ่งใหญ่ขึ้นในเมืองบอมเบย์ ( ปัจจุบันคือมุมไบ , อินเดีย ) และโรคระบาดนี้ .. ได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปยังส่วนอื่นๆ ของเมืองและรัฐใกล้เคียง   กาฬโรคและอหิวาตกโรคในสมัยนั้นคือโรคติดต่ออันน่ากลัวและหายารักษาได้ยาก จึงส่งผลให้มีผู้ป่วยและเสียชีวิตลงไปเป็นจำนวนมากมายมหาศาล   หนึ่งในผู้เสียชีวิตนั้นคือบุตรชายเพียงคนเดียวของท่านเศรษฐีพ่อค้าขนมหวานที่เมืองปูเน่ ท่านเศรษฐีมีนามว่า Dagdusheth Halwai และภรรยาของท่าน Lakshmibai การสูญเสียบุตรชายอันเป็นที่รักไปนั้น .. ส่งผลให้ท่านเศรษฐีและภรรยามีความเสียใจยิ่งนัก ภาวะซึมเศร้าของคนที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป คือ ความทุกข์ทางใจอันแสนสาหัส .. ยากที่จะมีหมอที่ไหนรักษาได้ ก็คงจะมีแต่ปาฏิหาริย์เท่านั้นจึงสามารถรักษาแผลใจอันยิ่งใหญ่นี้ได้ .. ด้วยทั้งสองสามีภรรยาเป็นผู้มีจิตใจเมตตาและเป็นผู้ที่มีความศรัทธาในพระเจ้าอย่างที่สุด ท่านคุรุจี มหาราช ได้เกิดความเห็นใจ จึงชี้แนะวิธีรักษาเยียวยาแผลใจให้กับท่านเศรษฐีและภรรยา คุรุจี มหาร...

  ในพระคัมภีร์มหาปุราณะได้มีการแบ่งแยกนิกายต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน นิกายที่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบันมีดังนี้ .. 1. ลัทธิไวษณพ : นับถือพระวิษณุเป็นเทพเจ้าสูงสุด และเป็นนิกายที่เก่าแก่ที่สุด 2. ลัทธิไศวะ : นับถือพระศิวะเป็นเทพเจ้าสูงสุด 3. ลัทธิคณพัทยะ : นับถือพระคเณศเป็นเทพเจ้าสูงสุด 4. ลัทธิศักติ : นับถือพระเเม่ พระเทวี พระชายาของมหาเทพเป็นเทพเจ้าสูงสุด 5. ลัทธิสรภัทธะ : บูชาสุริยะเทพเป็นเทพเจ้าสูงสุด 6. ลิทธิสมารธะ : นับถือเทพเจ้าทุกองค์ในศาสนาฮินดู 7. ลัทธิเชมัน นับถือบูชาโลกวิญญาณ เช่นพวกคนทรง พ่อมด แม่มด หมอผี .. และยังมีลัทธิอื่นๆ อีกมากมายที่กำลังหายสาบสูญไป และลัทธิใหม่ๆ ที่ไม่มีในพระคัมภีร์ก็เริ่มเกิดมีขึ้นมากมาย บางลัทธิก็ให้คุณ แต่บางลัทธิก็ให้โทษ ทั้งหมดทั้งมวลก็ขึ้นอยู่กับความพอใจและการใช้สติปัญญาของผู้ศรัทธานั้นๆ ที่จะพิจารณาด้วยตัวเอง   ขอพระจ้าอวยพร by Hidden Hindu   อานิสงส์ ผลแห่งกุศล ประโยชน์ที่เกิดจากการได้รับฟัง อ่าน บอกเล่าและเเบ่งปันความรู้ในพระคัมภีร์ และเผยเเพร่เรื่องราวในปุราณะไปสู่สาวกของพระเจ้าถือเป็นบุญอันยิ่งใหญ่สะเทือนฟ้าสะเ...

  # เทวรูปหรือรูปเคารพมีที่มาอย่างไร ? บทเพลงแห่งพระเจ้า .. คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ .. ภควัทคีตา .. คำสอนจากพระกฤษณะ ตอน .. ❝ จุดกำเนิดของเทวรูป ❞ # ในพระคัมภีร์ภควัทคีตา Verse 12.5 ได้บันทึกไว้ว่า “ มนุษย์มีความเคยชิน .. ติดอยู่ในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ที่เป็นจริตอย่างหยาบ จิตจึงเคยชินอยู่ในรูปแบบของกายหยาบ จิตจึงยากที่จะเข้าใจได้ถึงกายละเอียด ถึงแม้ใจจะรักในพระเจ้า แต่ก็น้อยคนนักที่จะสามารถเข้าใจและสัมผัสถึงพลังงานอันละเอียดบริสุทธิ์ที่ไม่สามารถจับต้องได้ของพระเจ้า ดังนั้นการที่จะเข้าถึงพระเจ้าโดยอาศัยเพียงจิตที่สงบนิ่งเพ่งไปในพลังงานที่ไม่มีตัวตน จึงเป็นการยากยิ่งสำหรับบุคคลส่วนมากที่จะสามารถทำได้ จึงต้องมีสื่อนำจิต เช่นรูปปั้น เพื่อให้จิตสามารถเพ่งความสนใจไปที่สิ่งนั้น จิตจึงสงบนิ่งได้โดยง่าย ความผูกพันทางจิตใจจึงเกิด บุคคลจึงสามารถสัมผัสได้ถึงมหาสมุทรแห่งความเมตตา จึงสามารถเปิดจิตรับการปกป้องและรับพรอันประเสริฐที่พระเจ้าประทานแก่ลูกๆ ของพระองค์ ด้วยวิธีนี้จึงจะไม่มีบุตรธิดาของพระองค์สูญหายไป ” Verse 12.5 # ฮินดูมีความเชื่อว่าพระเจ้ามีเพียงหนึ่งเดียว แต่...