คำสอนaลี้ลับบทสุดท้าย..พระเวทมุณฑกะ อุปนิษัท..ปรัญชาอาตมัน
ตอน
คุรุ..ครู..ที่ใช่ จะดูรู้ได้อย่างไร?
ชีวิตคนเราเปรียบได้ดั่งการเดินทางหลงป่าหาทางกลับบ้านไม่ถูก ป่าอันรกชันที่มีสัตว์ร้าย งูพิษ แมลงกัดต่อยมากมาย สายฝนที่กระหน่ำลงมา ความหิวโหย ความหนาวเหน็บ หาที่อุ่นกายใจให้พักพิงก็แสนยาก..
การหลงป่าคือคำเปรียบเปรยของมหาริชชี่ในยุคโบราณที่ได้กล่าวเอาไว้ถึงการมีชีวิตที่วนเวียนอยู่ในความทุกข์ ปัญหาเก่าไป ปัญหาใหม่ก็มา วนเวียนอยู่แบบนี้ไม่มีวันจบสิ้น ความทุกข์วนไปวนมาทุกวัน ทุกปี ทุกภพ ทุกชาติ ศาสตร์ฮินดูเรียกสิ่งนี้ว่า..สังสารวัฏ ( SAMSARA )
❝ป่าแห่งสังสารวัฏ❞ จึงทำให้ทุกชีวิตพยายามดิ้นรนเพื่อหนีให้พ้นจากทุกข์ในวิธีที่เเตกต่างกันไป บ้างก็เชื่อว่าเงินคือจุดหมายของความสุข บ้างก็แสวงหาความรักคือความสุข บ้างก็คิดว่าความสำเร็จในชีวิตการงานคือความสุข บางกลุ่มก็เชื่อว่าความสงบคือความสุข แล้วความสุขอันเเท้จริงอยู่ที่ใดกัน..
ด้วยความโหยหาความสุขและเพื่อหนีให้พ้นความทุกข์ในรูปแบบต่างๆ นานา บุคคลจึงเพียรหาที่พึ่งทางใจ เพียรพยายามหาหลักเกาะที่มั่นคง หาผู้ชี้ทางสว่างเพื่อแก้ไขปัญหา
จึงเป็นที่มาของ คุรุ หรือ ครู ผู้ชี้แนะเส้นทางชีวิต บ้างก็กราบไหว้เทพเทวาเป็นครูผู้ให้แสงสว่าง บ้างก็บูชาเทวรูปเป็นครูเพื่อขอโชคลาภ บ้างก็ยึดเอาความรู้ในหนังสือในพระคัมภีร์เป็นครู บางพวกก็ไปกราบร่างทรงเป็นครูตามสำนักต่างๆ เพื่อประสงค์จะแก้ทุกข์ บ้างไปเพราะหวังรวยเพราะหวยอาจช่วยให้สุขได้ บ้างก็กราบไหว้ต้นไม้หินดินทรายไปจนถึงธาตุทั้งห้าเป็นครู..
ในทุกๆ การกระทำ บ้างก็สมหวัง บ้างก็ผิดหวัง ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับว่าเราได้มาถูกทางแล้วหรือยัง ผู้ชี้แนะชีวิตให้เราเขาชี้ถูกทางไหม แล้วเราจะมองออกได้อย่างไรว่า ใครคือคุรุหรือครูที่ใช่ คุรุผู้ปรารถนาให้เราพบทางสว่างอย่างแท้จริง ผู้มีความรู้อย่างแท้จริงที่จะชี้ทางให้เราเดินไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอกภัยและชี้แนะวิธีแก้ปัญหาถ้าต้องเผชิญหน้ากับภยันตราย
❝ ใครกันคือครูที่ใช่..ผู้สามารถชี้ทางที่ถูกต้องให้เราได้ ? ❞
#การมีครูที่ใช่..จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราควรมี และการที่ได้เรียนรู้รับคำแนะนำจากผู้มีความรู้มีประสบการณ์ ผู้ที่เข้าใจเราอย่างแท้จริง และมีความปรารถนาดีต่อเรา บุคคลผู้นั้นก็คือครูที่สามารถชี้เส้นทางเดินที่ถูกต้องให้แก่เราได้
แต่จงจำไว้ว่า..ไม่มีเส้นทางไหนเลยที่จะรับประกันว่ามันจะเป็นเส้นทางที่ราบรื่นไปตลอดทาง หรือมีแต่ความสุขตลอดไป ดังนั้นครูที่จะสามารถชี้แนะเราได้ดีที่สุด เพื่อให้เราเดินกลับถึงบ้านได้อย่างปลอดภัย คือผู้ที่ไม่เพียงชี้เส้นทางเดินให้กับเรา แต่ครูจะต้องรู้เส้นทางว่าตรงไหนมีอันตรายตรงไหนควรระวัง และครูท่านนี้ต้องสามารถพาเราเดินไปสู่จุดหมายปลายทางเพื่อพบเจอความสุขได้อย่างแท้จริง ครูต้องสามารถชี้แนะเส้นทางหลากหลายให้เราได้ และในเเต่ละเส้นทางเราสามารถเรียนรู้เข้าใจ เพื่อวันข้างหน้าถ้าเราหลงทางอีก เราจะสามารถหาทางเดินที่ใช่ได้เอง หรือเราสามารถที่จะชี้แนะให้ผู้อื่นต่อไปได้
ด้วยวิธีนี้เราจึงเดินไปได้อย่างมีสติ มีความสุข เพลิดเพลินไปกับธรรมชาติที่เราพบเจอไปได้ตลอดทาง ถึงแม้นจะเจออุปสรรค เราก็รู้วิธีแก้ปัญหา นี่คือการมีครูที่ใช่ ครูท่านนั้นจะเป็นใครก็ได้ แม้นแต่ตัวเราเอง ผู้ที่ได้เรียนรู้พบเจอแก้ไขปัญหาต่างๆ มาจนช่ำชอง จนเรียกว่าเป็นผู้มีประสบการณ์และได้พบความสำเร็จแล้ว
มหาริชชี่ได้เปรียบเปรยไว้อีกว่า..เมื่อถึงเวลา เราจะพบเจอครูที่ใช่เอง แต่ในระหว่างเวลา เราก็อาจเจอบุคคลที่ดูเหมือนครู ดูมีความความรู้ มีความน่าไว้วางใจ แต่เราหารู้ไม่เลยว่าเขาอาจไม่ได้สนใจที่จะช่วยแก้ปัญหา และยังชี้เส้นทางผิดๆ ที่เต็มไปด้วยอันตราย ปล่อยให้เราเดินไปอย่างโดดเดี่ยว ครูปลอมๆ แบบนี้คืออุปสรรคของการเดินทาง พวกเขาคือตัวสร้างปัญหา
ดังนั้นวิธีเดียวเลยที่เราจะสามารถรู้ได้ว่าบุคคลผู้นี้ผู้นั้นคือครูอย่างแท้จริง ก็คือเมื่อเราเดินไปตามทิศทางที่ได้รับคำแนะนำแล้วชีวิตดีขึ้น เมื่อปัญหามีเข้ามาก็สามารถแก้ไขได้อย่างดี มันอาจต้องใช้เวลาเพื่อพิสูจน์ ถ้าครูที่ใช่ ชีวิตเราจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีเสมอ !!
สุดท้ายครูจะดีเลิศ ประเสริฐศรีอย่างไร ถ้าผู้เรียนรู้ไม่ใส่ใจ ไม่เชื่อมั่น เกียจคร้าน ขาดความเคารพในครู บุคคลผู้นั้นก็มิอาจเรียนรู้สิ่งใดได้เลย และก็จะหลงทางวนไปวนมาอยู่ในป่าแห่งสังสารวัฏไปตลอดกาล
by Hidden Hindu
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น