❝จุดกำเนิดของเทวรูป❞


 #เทวรูปหรือรูปเคารพมีที่มาอย่างไร ?


บทเพลงแห่งพระเจ้า..คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์..ภควัทคีตา..คำสอนจากพระกฤษณะ


ตอน..


จุดกำเนิดของเทวรูป


#ในพระคัมภีร์ภควัทคีตา Verse 12.5 ได้บันทึกไว้ว่า มนุษย์มีความเคยชิน..ติดอยู่ในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ที่เป็นจริตอย่างหยาบ จิตจึงเคยชินอยู่ในรูปแบบของกายหยาบ จิตจึงยากที่จะเข้าใจได้ถึงกายละเอียด ถึงแม้ใจจะรักในพระเจ้า แต่ก็น้อยคนนักที่จะสามารถเข้าใจและสัมผัสถึงพลังงานอันละเอียดบริสุทธิ์ที่ไม่สามารถจับต้องได้ของพระเจ้า ดังนั้นการที่จะเข้าถึงพระเจ้าโดยอาศัยเพียงจิตที่สงบนิ่งเพ่งไปในพลังงานที่ไม่มีตัวตน จึงเป็นการยากยิ่งสำหรับบุคคลส่วนมากที่จะสามารถทำได้ จึงต้องมีสื่อนำจิต เช่นรูปปั้น เพื่อให้จิตสามารถเพ่งความสนใจไปที่สิ่งนั้น จิตจึงสงบนิ่งได้โดยง่าย ความผูกพันทางจิตใจจึงเกิด บุคคลจึงสามารถสัมผัสได้ถึงมหาสมุทรแห่งความเมตตา จึงสามารถเปิดจิตรับการปกป้องและรับพรอันประเสริฐที่พระเจ้าประทานแก่ลูกๆ ของพระองค์ ด้วยวิธีนี้จึงจะไม่มีบุตรธิดาของพระองค์สูญหายไป Verse 12.5


#ฮินดูมีความเชื่อว่าพระเจ้ามีเพียงหนึ่งเดียว แต่พระองค์ลงมาบนโลกในเวลาที่แตกต่างกัน และลงมาด้วยหน้าที่หรือภารกิจที่ต่างกัน..


ฮินดูจะเรียกการลงมาของพระเจ้าว่า..อวตาร..ก็คือเทพในปางต่างๆ ที่มีการบันทึกและบอกเล่ากันต่อๆ มา และยังรวมไปถึงความเชื่อความศรัทธาในเทวดา และธาตุขันธ์ของธรรมชาติทั้งหลายที่อยู่บนโลกนี้และที่มีอยู่ทั่วจักรวาลด้วยเช่นกัน


ด้วยความศรัทธาอันแรงกล้าใน #อวตาร และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ชาวฮินดูจึงบูชาเทพเทวาทั้งหลายเหนือเศียรเกล้า และด้วยความศรัทธานี้..จึงมีการสร้างรูปลักษณ์เหมือนขึ้นมา จากหิน ดินปั้น สัมฤทธิ์ โลหะ หรือจากไม้หอม รูปเหมือนนั้นๆ ที่ทำจำลองขึ้นมาเรียกว่า มุรติ หรือ เทวรูป


ทำไมต้องสร้างรูปเหมือนของเทพเจ้าขึ้นมาในเมื่อฮินดูมีความเชื่อว่า..พระเจ้าทรงสถิตอยู่ในทุกสรรพสิ่ง ?


คำตอบก็คือ..การที่สร้างเทวรูปจำลองขึ้นมานั้น เป็นการรวมศูนย์ พลังของพระเจ้าให้มาอยู่ที่มุรติ..มุรติจะถูกสร้างขึ้นมาตามประสงค์ต่างๆ ของพระองค์ โดยหลักสำคัญคือต้องมีการทำพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ตามบทบัญญัติว่าไว้ในพระคัมภีร์โดยผ่านผู้ที่ถูกเลือกแล้ว บุคคลผู้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่บริสุทธิ์ด้วยกาย วาจา และใจ เทวรูปจึงจะทรงพลังลึกลับอันน่าอัศจรรย์ได้


#มุรติ หรือ เทวรูปมีความศักดิ์สิทธิ์และแฝงความลึกลับไว้ภายในที่ใครๆ ก็ยากจะอธิบายได้ ความลึกลับอันน่ามหัศจรรย์นี้จึงเป็นแกนหลักสำคัญของการเข้าถึงพระเจ้า


การเข้าถึงพระเจ้าในรูปแบบของมูรติมีมากมายหลากหลายวิธี เช่น การสวดมนต์ ทำอารตี ทำสมาธิ ถวายการบูชาด้วยดอกไม้ ผลไม้ ร้องเพลงสวดถวาย หรือแม้นแต่การร่ายรำ 


การเข้าถึงพระเจ้าด้วยการสื่อสารผ่านมูรติอาจมีหลากหลายวิธี แต่เหตุผลหนึ่งเดียวคือการให้ผู้ศรัทธาได้มีจิตสงบนิ่งในสมาธิ จึงสามารถสื่อความรู้สึกของตนเพี่อสร้างสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับพระเจ้าในปางต่างๆ ตามแต่ความศรัทธาของเขา 


เมื่อศรัทธาเกิดเราจึงจะตระหนักได้ว่า มูรติ หรือ เทวรูปนั้นๆ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ตัวแทนหรืออุปกรณ์ในการอธิษฐานเพื่อเชื่อมต่อเรากับพระเจ้า แต่แท้จริงแล้วถ้ามองให้ลึกลงไปมากกว่าความเป็นหิน ดิน โลหะ หรือแม้แต่รูปวาด เราจะตระหนักได้ว่าความลึกลับอันน่าอัศจรรย์ภายในรูปลักษณ์ของมูรตินั้นๆก็คือ..การสถิตอยู่ของพระเจ้าอย่างแท้จริง..แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถเข้าถึงพลังงานอันศักดิ์สิทธิ์ได้สำเร็จ !


ดังนั้น..หลักของความจริงเกี่ยวกับพระเจ้าคือความเชื่อที่ถูกกลั่นกรองออกมาเป็นความศรัทธา พลังแห่งศรัทธานั้นเหนือกว่าที่เราจะจินตนาการได้ แต่ความเชื่อทั้งหมดก็คือคุณธรรมที่จะเป็นเข็มทิศชี้เส้นทางอันสว่างให้เราเลือกที่จะมีหนทางชีวิตที่ดีได้ 


แต่ถึงกระนั้น เราก็คือผู้กำหนดวิถีชีวิตของเราเอง จะด้วยความจริงหรือความเท็จ ความดีหรือความชั่ว เราต้องตระหนักรู้ด้วยตัวของเราเองเท่านั้น โดยมีพระเจ้าเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ


เมื่อใดที่เราสามารถเข้าถึงพลังศักดิ์สิทธิ์อันละเอียดบริสุทธิ์ของพระเจ้าแห่งจักรวาลได้ เราก็จะสามารถเข้าใจในตัวตนและจิตวิญญาณของเราได้ เราจึงจะรู้กระจ่างในทางโลกวัตถุ เข้าใจลึกซึ้งถึงจักรวาล รู้พระคุณของธรรมชาติ รักและรู้จักที่จะเมตตาต่อทุกสรรพสิ่ง นั่นคือการเข้าถึงความจริงแห่งพระเจ้าซึ่งมีเพียงหนึ่งเดียว..


..EKAM SATYAM..The one Truth..

     ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว



#จุดกำเนิดของเทวรูป


by Hidden Hindu

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กำเนิดเทศกาลคเณศจตุรถี

ทำไมพระกฤษณะถึงเลิกเป่าขลุ่ย ?

นิกายต่างๆ ในศาสนาฮินดู